ขนมสำหรับเด็ก เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ดีสำหรับเด็กๆ ที่กำลังอยู่ในช่วงวัยนี้ โดยขนมเด็กจะแตกต่างจากขนมทั่วไป เพราะจะผลิตจากวัตถุดิบที่มีคุณภาพและปลอดภัย ไม่มีการปรุงแต่งสี กลิ่น หรือรสชาติ ไม่มีส่วนประกอบของวัตถุกันเสีย นอกจากอร่อยและเป็นของว่างสำหรับเด็กๆ แล้ว ขนมเหล่านี้จะช่วยลดอาการคันเหงือก คันฟัน ช่วยให้ไม่ร้องไห้งอแง และช่วยแบ่งเบาความกังวลของคุณแม่ได้อีกด้วย

เด็กอายุเท่าไหร่ถึงจะเริ่มกินขนมสำหรับเด็กได้
เด็กจะทานขนมได้ก็ต่อเมื่อเริ่มมีฟันขึ้น วิธีสังเกตง่ายๆ คือให้ลองใช้นิ้วถูบริเวณเหงือก ถ้าสัมผัสได้ถึงปุ่มแข็งๆ ก็แปลว่าฟันน้องเริ่มงอกแล้ว ฟันของเด็กจะเริ่มงอกในช่วงอายุที่ไม่เหมือนกัน เด็กบางคนฟันงอกเร็วตั้งแต่ 6 – 8 เดือน ขณะที่ฟันของเด็กบางคนจะเริ่มงอกช่วงหลัง 12 เดือนซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากพัฒนาการของเด็กแต่ละคนจะช้าเร็วแตกต่างกันออกไป แต่หากอายุครบ 18 เดือนแล้วยังไม่มีฟันงอก แนะนำให้ลองปรึกษาทันตแพทย์

คำแนะนำในการเลือกซื้อขนมสำหรับเด็ก
1. เลือกขนมให้เหมาะกับช่วงวัย
เด็กแต่ละคนจะมีความสามารถในการเคี้ยวหรือขยับร่างกายในส่วนต่างๆ ไม่เหมือนกัน รวมไปถึงขนมแต่ละชนิดจะผลิตออกมาสำหรับเด็กในช่วงอายุที่แตกต่างกันออกไป แนะนำให้ตรวจสอบช่วงวัยที่เหมาะสมของสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อ สำหรับเด็กที่เพิ่งหัดทานขนมแนะนำให้เริ่มจากขนมนิ่มๆ จะช่วยให้เด็กคุ้นเคยได้ง่ายขึ้น

2. ตรวจสอบส่วนผสมหลักเพื่อหลีกเลี่ยงอาการแพ้
ขนมสำหรับเด็กส่วนใหญ่จะผลิตมาจากวัตถุดิบธรรมชาติ แต่หากมีอาหารแพ้อาหารบางชนิด ให้ตรวจสอบส่วนผสมให้มั่นใจก่อนตัดสินใจซื้อเพื่อความปลอดภัยและป้องกันเหตุการณ์ที่เด็กจะแพ้ส่วนประกอบของขนม ในส่วนของรสชาติและการปรุงรส ส่วนใหญ่แล้วขนมสำหรับเด็กจะไม่มีการแต่งสีแต่งกลิ่น เด็กสามารถรับประทานได้อย่างมั่นใจ

3. เลือกขนมที่ไม่ผสมน้ำตาลและมีพลังงานต่ำ
ขนมเด็กไม่ใช่อาหารหลัก การรับประทานขนมมากหรือบ่อยจนเกินไปอาจทำให้เด็กติดของหวานหรือติดขนมได้ ดังนั้นเราแนะนำให้คุณเลือกซื้อขนมที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาลที่อาจะทำให้ฟันผุได้ในอนาคต และควรเลือกซื้อขนมที่ให้พลังงานต่ำเพื่อไม่ให้กระทบอาหารมื้อหลัก นอกจากนี้ควรมองหาขนมที่ได้สีสันจากธรรมชาติ ไม่มีการแต่งสีแต่งกลิ่นเพื่อให้เด็กปลอดภัยจากสารเคมีสังเคราะห์ต่างๆ

4. เลือกซื้อขนมที่ไม่แข็งมากจนเกินไป ละลายง่ายเมื่อเด็กเอาเข้าปาก
ข้อสำคัญในการซื้อขนมสำหรับเด็กคือ ควรเลือกซื้อขนมที่ไม่แข็งมากจนเกินไปจนทำให้เหงือกบวมช้ำและละลายได้ง่ายเพื่อป้องกันไม่ให้สำลักอาหาร หรืออาหารติดคอเด็ก แนะนำให้เลือกซื้อขนมข้าวพองที่ไม่แข็งและละลายง่าย นอกจากนี้หากขนมมีรูปทรงและขนาดที่หลากหลายจะช่วยให้เด็กได้ฝึกหยิบจับ เป็นการช่วยพัฒนากล้ามเนื้อมือได้อีกด้วย

 

ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กได้ที่  fuji-homebank.com