อาการวูบหมดสติ จะแสดงอาการเกร็งที่มือ เท้า ตาค้างชั่วขณะ ปลายมือ ปลายเท้าเย็น และอาการอื่นๆ ผู้ป่วยจะจำเหตุการณ์ตอนหมดสติไม่ได้ ส่วนใหญ่พบในคนที่เป็นโรคหัวใจหรือคนที่มีโรคประจำตัวอื่นๆ โรคนี้รักษาไม่หายแต่สามารถป้องกันได้เบื้องต้น ควรพักผ่อนให้เพียงพอและศึกษาข้อมูลเพื่อป้องกันการเกิดอาการ หากมีอาการวูบหมดสติบ่อยควรรีบไปพบแพทย์
อาการวูบหมดสติ คืออะไร
อาการวูบหมดสติ หรือภาวะวูบหมดสติ (Syncopal Attack) หมายถึง ภาวะที่มีการสูญเสียการรับรู้สติ ซึ่งมีลักษณะเฉพาะได้แก่ หมดสติเฉียบพลัน เกิดขึ้นในระยะเวลาอันสั้น และสามารถฟื้นคืนสติได้ด้วยตัวเอง (Transient loss of consciousness : TLOC) การหมดสติ เกิดจากเลือดไปเลี้ยงสมองลดลงชั่วขณะ ทำให้สมองที่เป็นศูนย์ควบคุมการรู้สติขาดออกซิเจนชั่วคราวจึงทำให้ผู้ป่วยหมดสติ
อาการที่พบในขณะหมดสติ
- เรียกไม่รู้สึกตัว
- ล้มลงกับพื้น ทรงตัวไม่อยู่
- อาจมีอาการเกร็งที่มือ, เท้า, ตาค้างชั่วขณะ
- ปลายมือ ปลายเท้าเย็น, เหงื่อออกที่ใบหน้า, หน้าและริมฝีปากซีด
- อาจมีอาการอุจจาระ และ ปัสสาวะราด
- ผู้ป่วยจะจำเหตุการณ์ตอนหมดสติไม่ได้
ระยะเวลาของอาการวูบหมดสติ พบได้ตั้งแต่ 30 วินาที – 5 นาที ขึ้นอยู่กับสุขภาพพื้นฐานเดิมและอายุของผู้ป่วย อาจมีอาการเตือนล่วงหน้าหรือไม่ ผู้ป่วยบางราย อาจมีอาการเตือนล่วงหน้าก่อนหมดสติ เช่น รู้สึกหวิวๆ มึนศีรษะ, โคลงเคลง, ตาพร่า เห็นสีวูบวาบ เหมือนตัวลอยๆ, คลื่นไส้
สาเหตุของอาการวูบหมดสติ
1. สาเหตุที่มาจากโรคของหัวใจโดยตรง เช่น
- หลอดเลือดหัวใจตีบ
- ลิ้นหัวใจตีบ
- หัวใจเต้นผิดจังหวะทั้งชนิดเร็วและช้า
- กล้ามเนื้อหัวใจบีบตัวผิดปกติ, ภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน
- กล้ามเนื้อหัวใจหนาตัวผิดปกติ
2. สาเหตุที่มาจากระบบประสาทอัตโนมัติทำงานผิดปกติ จะพบในบางสถานการณ์ที่จำเพาะ เช่น
- หลังการไอ จาม เบ่งอุจจาระ ปัสสาวะ
- ยืนนานๆ ในที่มีคนแออัด หรืออากาศร้อนจัด
- กลัวการเจาะเลือด กลัวเข็มฉีดยา
- หลังการออกกำลังกาย
อาการวูบหมดสติพบในโรคเรื้อรังที่มีผลต่อการทำงานของระบบประสาท, เส้นประสาทเสื่อม
- เบาหวาน (Orthostatic hypotension)
- โรคทางสมองบางอย่างที่มีระบบประสาทอัตโนมัติเสื่อม เช่น พาร์กินสัน, สมองเสื่อม
- อันตรายต่อไขสันหลัง
3. ภาวะการสูญเสียเลือด หรือ ขาดน้ำ
4. ยาบางชนิด โดยเฉพาะยาลดความดันโลหิต, ยาขับปัสสาวะ, ยาต้านเศร้า, ยารักษาต่อมลูกหมาก
การปฐมพยาบาลอาการวูบหมดสติ
เมื่อพบผู้ป่วยหมดสติ ควรให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ดังนี้ คือ
- ให้ผู้ป่วยนอนราบกับพื้นที่สะอาด ปลอดภัย
- ไม่มุงดู เพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก
- ตะแคงศีรษะไปด้านข้าง ป้องกันลิ้นตก
- ถ้ากำลังรับประทานอาหารอยู่ มีอาหารในปาก มีฟันปลอมอยู่ ควรใช้ผ้าล้วงเศษอาหารออกจากปาก และถอดฟันปลอมได้ ให้ช่วยถอดฟันปลอม
- เรียกรถฉุกเฉิน หรือนำส่งโรงพยาบาล
การประเมินผู้ป่วยที่มาด้วยอาการวูบหมดสติ แพทย์จะซักประวัติจากผู้เห็นเหตุการณ์ และจากผู้ป่วยภายหลังฟื้นสติแล้ว ตรวจร่างกายในกรณีที่ผู้ป่วยมีสัญญานชีพและอาการทางร่างกายที่ไม่คงที่ พร้อมการรักษาตามสาเหตุของโรคต่อไป
การตรวจอาการวูบหมดสติพิเศษเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับโรคที่เป็นสาเหตุของการหมดสติ เช่น
- ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ, Holter EKG ในผู้ป่วยที่สงสัยภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
- ตรวจคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจ (Echocardiogram) ในผู้ป่วยที่จำเป็นต้องวินิจฉัยแยกโรคหัวใจบางอย่าง เช่น ลิ้นหัวใจตีบ, กล้ามเนื้อหัวใจหนา
- ตรวจ Till Table Test ในผู้ป่วยที่สงสัยภาวะวูบหมดสติจากความดันต่ำเวลาเปลี่ยนอิริยาบถ Orthotatic Hypotension หรือ ความดันต่ำจากการยืนนานๆ หรือหลังออกกำลังกาย
- ตรวจ Coronary CTA หรือ CAG ในผู้ป่วยที่สงสัยภาวะเส้นเลือดหัวใจตีบ
- ตรวจ MRI Brain ในผู้ป่วยที่สงสัยภาวะสมองเสื่อม
การรักษาอาการวูบหมดสติ
- การรักษาโรคขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้วูบ ซึ่งแพทย์จะรักษาตามเหตุนั้นๆ ได้แก่ การรักษาภาวะโรคหัวใจขาดเลือด (การใช้ยา, การขยายหลอดเลือดด้วยบอลลูน)
- การใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจในผู้ที่หัวใจเต้นช้าผิดจังหวะ (Pacemaker)
- การใช้ยาบางชนิดในผู้ป่วยที่มี Orthostatic Hypotension
- การแนะนำให้ผู้ป่วยใส่ถุงน่อง เพื่อลดการขยายตัวของหลอดเลืด ในผู้ที่วูบหลังยืนนานๆ
การป้องกันอาการวูบหมดสติ
การป้องกันอาการวูบหมดสติ สามารถทำได้เพื่อลดความรุนแรง ลดความถี่ของการเกิดอาการและลดอุบัติเหตุซ้ำเติมจากการวูบ ได้แก่
- ดื่มน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอ
- หลีกเลี่ยงการยืนนานๆ ในที่อากาศร้อนจัด
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์, สูบบุหรี่
- ออกกำลังกายแบบแอโรบิก อย่างน้อย 4 ครั้ง / สัปดาห์ ครั้งละไม่ต่ำกว่า 30 นาที
- นั่งปัสสาวะในผู้ที่วูบหลังเบ่งปัสสาวะ, งดเบ่งอุจจาระและปัสสาวะแรงๆ
- ออกกำลังกายแบบ hand grip exercise ได้แก่ บีบลูกบอลด้วยมือ 2 ข้าง ทำซ้ำๆ ชุดละ 10 ครั้ง อย่างน้อย 2 -3 ชุด /วัน
- หลักเลี่ยงการไอหรือจามแรงๆ
- หลีกเลี่ยงอาชีพที่จะมีอันตรายจากอุบัติเหตุซ้ำเติมขณะวูบ เช่น ช่างทาสี ช่างไม้ นักบิน หรือคนขับรถรับจ้าง
การรักษาและควบคุมอาการวูบหมดสติ ขึ้นอยู่กับสาเหตุของการเกิดโรค เช่น สามารถรักษาได้หายขาดได้ในโรควูบที่มีเหตุจากลิ้นหัวใจตีบ โดยการผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ, การผ่าตัดลิ้นหัวใจ, การขยายบอลลูนที่ลิ้นหัวใจ
- การรักษาหลอดเลือดหัวใจตีบด้วยยาหรือการขยายบอลลูน กรณีวูบจากกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
- การรักษาภาวะหัวใจเต้นช้า โดยการใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ Pacemaker
- การปรับยาที่เป็นสาเหตุวูบ เช่น หยุดยาขับปัสสาวะ หรือยาที่ขยายหลอดเลือดมากเกินไป
ข้อแนะนำที่สำคัญ
- ควรมีการตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อค้นหาปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจ ตลอดจนโรคที่มีผลให้เกิดอาการวูบหมดสติ
- ควรพบแพทย์เพื่อรับคำปรึกษาเมื่อสงสัยว่ามีอาการคล้ายจะวูบหรือเคยมีอาการวูบหมดสติมาก่อน เพื่อจะได้รับการตรวจเพิ่มเติมที่เหมาะสมต่อไป
อาการวูบหมดสติ ภาวะบางอย่างไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ เช่น การเสื่อมของระบบประสาทอัตโนมัติ, วูบจากหลอดเลือดขยายตัว แต่สามารถปรับการรักษาเพื่อลดความรุนแรงและความถี่ของโรคได้ โดยการให้ยาที่เหมาะสม ตลอดจนการปรับการใช้ชีวิต หลีกเลี่ยงงานบางอาชีพที่จะมีอันตรายจากการบาดเจ็บซ้ำเติมขณะวูบ
เรื่องเกี่ยวกับสุขภาพอื่นๆ ที่น่าสนใจ
- โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน มีอาการและการรักษาอย่างไร
- เครียดลงกระเพาะ โรคที่สามารถป้องกันการเกิดขึ้นได้
- ต้อหิน เป็นแล้วไม่รักษาอาจสูญเสียการมองเห็นได้
- โรคเชื้อราที่เล็บ มีอาการอย่างไร และสามารถรักษาให้หายหรือไม่
ที่มาของบทความ
- https://www.vejthani.com
- https://www.praram9.com
- https://www.istockphoto.com/320146232
- https://www.istockphoto.com/389700724
ติดตามเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพได้ที่ fuji-homebank.com
สนับสนุนโดย ufabet369